Policy PDPA

ประกาศเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับลูกค้าและผู้เกี่ยวข้อง

บริษัท แปซิฟิค ซันไรส์ โฮลดิ้ง จำกัด ต่อไปเรียกว่า “บริษัท หรือ “เรา ” ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายส่วนบุคคลของลูกค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (ซึ่งรวมเรียกว่า “ท่าน” และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้กำหนดประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่านตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 และช่องทางการติดต่อเรา

1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใดก็ตามที่สามารถบ่งบอกตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (ไม่ว่าด้วยข้อมูลนั้นเอง หรือโดยประกอบกับข้อมูลอื่น) เช่น ชื่อนามสกุล, อายุ, ที่อยู่,เพศ, อำชีพ, วันเกิด, สัญชาติ, หมายเลขโทรศัพท์, ข้อมูลบัตรประชำชน, ข้อมูลหนังสือเดินทำง และการเข้าออกประเทศ, บัญชีธนาคาร, ข้อมูลใบขับขี่, อีเมล, ไลน์ไอดี, ข้อมูลในบัญชี โซเชียลต่าง ๆ , รายได้ ตำแหน่งGPS, เว็บไซส์คุ้กกี้ รูปภาพ, บันทึกภาพ/เสียงจำกกล้องวงจรปิด, ข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน,
– ข้อมูลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูล เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ลายนิ้วมือ ข้อมูลชีวภาพ ตามที่ระบุใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ เป็นต้น
– เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดำที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

– ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวของอื่น ๆ หมายถึง บุคคลธรรมดำที่ มีกำรติดต่อ ปฏิสัมพันธ์ เข้าทำกิจกรรม ธุรกรรม และ/หรือสัญญาใด ๆ ทั้งทางตรง และทางอ้อม กับบริษัท เช่น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือที่ปรึกษา, ผู้ถือหุ้น. กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม หรือผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินการแทนในนามของบริษัท, คู่ค้า / ผู้ค้าของบริษัท รวมถึงพนักงาน, ผู้รับมอบอำนาจหรือตัวแทนของคู่ค้า / ผู้ค้าของบริษัทที่มีการติดต่อประสานงานกับบริษัท

– ประมวลผลขข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลและ /หรือ ข้อมูลอ่อนไหว เช่นการเก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา เปลี่ยนแปล ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น

2. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหว
ท่านรับทราบว่าภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการติดต่อ ปฏิสัมพันธ์เข้ากิจกรรม ธุรกรรม และ/หรือสัญญาใด ๆ ระหว่างท่านกับบริษัท (“กิจกรรม”) บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
บริษัทจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้อง และเพียงพอ เพื่อดำเนินกจิกรรมกฎเกณฑ์ ระเบียบภายใน และ/หรือข้อกำหนดการดำเนินงานของบริษัท และ/หรือการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยข้อง หากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้อง ครบถ้วนและเพียงพอ อาจส่งผลให้การให้การดำเนินการใด ๆ ตามกิจกรรมระหว่างบริษัทกับท่านเกิดความล้าช้าหรือความไม่สะดวกขึ้น และในกณีจำเป็นซึ่งเกี่ยวข้องกับปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาหรือตามกฎหมาย บริษัทอาจต้องปฏิเสธการดำเนินการตามข้อผูกพันใด ๆ ที่บริษัทมีต่อท่าน
อย่างไรก็ตาม บริษัทเคารพต่อสิทธิส่วนบุคคลและจำประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นและภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย บริษัทไม่มีวัตถุประสงค์หรือนโยบายในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหว (เช่น เชื้อชาติ,ศาสนา) ของท่าน นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ข้างต้น
บริษัทกำหนดให้มีมาตรการในการเก็บรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การทำลาย ใช้แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและมาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท
หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลง และ/หรือเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เป็นการดำเนินการเพื่อให้ปฏิบัติสัญญา หรือเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น บริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ที่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมให้ท่านทราบผ่านฝ่ายธุรการและฝ่ายบุคคลของบริษัท ติดประกาศ หรืออีเมลแจ้งให้พนักงานทราบ และจัดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านก่อนการดำเนินการหรือทำกิจกรรมใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น (หากกฎหมายกำหนดให้ต้องของความยินยอม)

3.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหว บริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น
นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการประมวลผล เว้นแต่ เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดหรือปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด / เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น / เป็นความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญา / เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หือความปลอดภัยของท่าน / เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล /เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ
บริษัทมีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวของกับการดำเนินการตามสัญญา และสัญญาหรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดังกล่าว แต่ทั้งนี้ บริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียบกันแก่บุคคลใด เว้นแต่
ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากท่าน / เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด / เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น / เป็นไปเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลไม่สามารถให้ความยินยอได้ด้วยเหตุใดก็ตาม / เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
บริษัทอาจเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลสาวนบุคคลของท่านที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น และอาจของความยินยอมจากท่าน (กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้อของความยินยอม) ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ข้างต้น และเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการดำเนินงานของบริษัทใหดียิ่งขั้น

4.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวให้กับบุคคลภายนอก ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานตามกฎหมาย
เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมการข้อ 2.1 ตามสัญญา และ/หรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวของกับการดังกล่าวที่กำหนดไว้ข้างต้น บริษัทอาจส่งโอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ หรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านให้กับ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลภายนอกซึ่งเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการ เป็นต้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านบนระบบคอมพิวเตอร์และเอกสารควบคุม
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านให้กับบริษัทแม่ หน่วยงานตรวจสอบภายในและภายนอก เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่รัฐหรือองค์กรอื่นใดที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดโดยกฎหมาย

5.การมีส่วนร่วมของข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
กรณีท่านประสงค์จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ ท่านสามารถส่งคำร้องขอเข้ามาที่อีเมล info@psh2002.com เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว บริษัทจะดำเนินการบันทึกคำร้องขอ ตรวจสอบและตอบกลับคำร้องขอของท่านภายในระยะเวลาอันสมควร
ท่านมีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหว วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้นอกจากนี้ยังมีสิทธิดังต่อไปนี้

– ขอสำเนา หรือขอสำเนารับรองถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวของตน
– ขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวของตนให้ถูกต้องสมบูรณ์
– ได้แย้งหรือขอระงับการใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตน
– ขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตน
– ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
– ขอยกเลิกการให้ความยินยอมใด ๆ
– ขอโอนย้ายข้อมูลไปที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
– ติดต่อบริษัทหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกรณีที่จำเป็น
– ร้องเรียนกรณีบริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อควรระวัง
หากเป็นกรณีกิจกรรมที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านตามฐานสัญญา หรือฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือฐานหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านตาม (3) และ (4) ได้
กรณีการประมวลผลด้วยฐานความยินยอมที่เกี่ยวกับสัญญา และกรณีการเก็บและใช้ข้อมูลอ่อนไหวเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หากเจ้าของข้อมูลฯ ได้ใช้สิทธิตามข้อ (3) (4) และ (6) บริษัทจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ ซึ่งจะมีผลทำให้สัญญากับหนักงานต้องสิ้นสุดลงและ/หรือไม่สามารถจัดเก็บสิทธิประโยชน์และสวัสดิการบางประเภทให้แก่พนักงานได้

6. ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของท่าน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ประมวลผล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายแล้วแต่กรณี โดยมีกำหนดระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่สัญญาเกี่ยวข้องสิ้นสุดลง

7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคล
บริษัท อาจมีการปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทและข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากท่าน บริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ บริษัทอาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้ท่านทราบโดยตรง หรือผ่านช่องทางอื่นของบริษัท โดยท่านสามารถตรวจสอบนโยบายส่วนบุคคลนี้ได้ที่ฝ่ายธุรการละฝ่ายบุคคลของบริษัท ติดประกาศ หรืออีเมลแจ้งให้ท่านทราบ ทั้งนี้ หากมีกรณีที่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการของความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของท่านที่บริษัทได้รับไว้ก่อน หรือมีอยู่ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ทางเราจะทำการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์เดิมต่อไป ซึ่งหากท่านไม่ประส่งค์ให้เราดำเนินการดังกล่าวตามวัตถุประสงค์เดิม ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น
ท่านจะติดต่อกับบริษัทฯ ได้อย่างไร
หากท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ หรือหากท่านมีความประสงค์ที่จะเข้าถึง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรักษาอยู่ โปรดติดต่อบริษัทฯได้ที่:
ที่อยู่ : เลขที่ 141/26 อาคารสกุลไทยสุรวงศ์ทาวเวอร์ ชั้น 18 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทร: 662-237-5880
อีเมล: info@psh2002.com

บริษัทฯจะตอบเรื่องร้องเรียน หรือคำร้องขอของท่านภายในเวลาที่เหมาะสม หากท่านให้รายละเอียดการติดต่อของท่านไว้ บริษัทฯ จะพิจารณาข้อร้องเรียนทั้งหมดอย่างจริงจังและให้ความมั่นว่าจะหาวิธีการแก้ไขอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม บริษัทฯ จะไม่นำกรณีที่ท่านได้ทำการร้องเรียนมาพิจารณาเมื่อบริษัทฯ ปฏิบัติหน้าที่ หรือกระทำกิจกรรรมอื่น ๆ
บริษัทฯ จะไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดำเนินการตามคำร้องของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการที่บริษัท ฯ ดำเนินการตามคำร้องขอภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกินกว่าคำร้องขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565
แต่ละฝ่ายได้กำหนดให้ตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจดำเนินการตามเงื่อนไขนี้ในวันที่เขียนไว้ด้านบน